
เมื่อตอนนั้น Issey Miyake เกิดไอเดียที่จะทำให้น้ำหอมใสเหมือนกับน้ำแร่ธรรมชาติและให้สเปรย์ออกมาเป็นละอองเหมือนน้ำตกตอนที่ไหลลงมาจากที่สูง ให้กลิ่นหอมของดอกไม้และป่าในฤดูใบไม้ผลิ ในที่สุด L'Eau d'Issey ถือกำเนิดและเป็นที่นิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกาในปี 1990
L'Eau d'Issey เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นไปในแนวที่เรียกว่า Aquatic-Floral เริ่มต้นด้วยโน๊ตดอกบัว, ดอกฟรีเซีย, cyclamen และน้ำผลไม้เมล่อน ตามมาด้วยกลิ่นระดับกลางของดอกพิโอนี่, ดอกลิลลี่ และดอกคาร์เนชั่น เผยให้เห็นลักษณะของน้ำหอมนี้ จบลงด้วยกลิ่นโน๊ตไม้ประกอบด้วยซีดาร์, ไม้จันทน์หอม, มัสค์และแอมเบอร์
ผลการโหวตจากผู้ที่เคยใช้น้ำหอมรุ่นนี้มาแล้วทั่วโลก ผู้คนส่วนใหญ่โหวตให้กับ "ดอกบัว" เป็นส่วนประกอบวัตถุดิบที่ให้กลิ่นหอมโดดเด่นมากที่สุด รองลงมาเป็นเมล่อน, ดอก Lily-of-the-Valley, ดอกลิลลี่และดอกฟรีเซีย มันเป็นน้ำหอมที่ให้ความหอมติดทนปานกลางประมาณ 3-6 ชั่วโมง การกระจายตัวของกลิ่นทำได้ดีในรัศมีหนึ่งช่วงแขน แต่ถ้าวันไหนอากาศดีๆท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมเหมาะสม จะช่วยทำให้ความหอมติดทนและการกระจายตัวของกลิ่นดีขึ้นกว่านี้ มันเป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับใช้ในช่วงกลางวัน เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ผู้คนที่เคยใช้ต่างรู้สึก "ชื่นชอบและหลงรัก" น้ำหอม Issey Miyake L'Eau d'Issey Pour Femme รุ่นนี้เป็นอย่างมาก
มันเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย Jacques Cavallier ในปี 1992
We have 459 guests and no members online