Dolce & Gabbana เปิดตัวน้ำหอม Limited Edition สำหรับปี 2019 โดยได้นำ Light Blue จากปี 2001 และ Light Blue Pour Homme ในปี 2007 มาพัฒนาใหม่จนได้น้ำหอมที่มีชื่อรุ่นว่า Light Blue Sun จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ปี 2019 มันเป็นน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวันที่ท้องฟ้าสดใสและความโรแมนติคสื่อถึงส่วนผสมอย่างน้ำมะพร้าวที่อยู่ในน้ำหอมรุ่นนี้ การผจญภัยในซัมเมอร์จะทำให้เกาะคาปรี Capri มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีก

เริ่มที่น้ำหอมผู้หญิง Light Blue Sun ที่ให้กลิ่นหอมโทนดอกไม้และผลไม้ที่แสนอ่อนนุ่ม เปิดตัวด้วยกลิ่นโน๊ตสดชื่นอย่างแอปเปิ้ลเขียวและเลม่อน ซึ่งเผยให้ได้กลิ่นระดับกลางที่มีส่วนผสมอย่างดอกไม้ขาว, ดอกกุหลาบและดอกลีลาวดี ในขณะที่กลิ่นฐานจบด้วยโน๊ตไม้, ambergris (สำรอกปลาวาฬ) และมัสค์ ซึ่งให้กลิ่นอบอุ่น น้ำหอมรุ่นนี้เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีปริมาตร 50 ml. และ 100 ml.

• Top notes : Lemon essence, Granny Smith apple, ozonic notes, coconut water
• Heart : jasmine, white rose, frangipani
• Base : ambergris, Bourbon vanilla, cedar, white musk

ผลตอบรับจากผู้ที่เคยใช้น้ำหอมรุ่นนี้บอกว่า กลิ่นโน๊ตของ "น้ำมะพร้าว" นั้นหอทโดดเด่นมากที่สุด รองลงมาเป็นเลม่อน, กลิ่นโน๊ตโอโซน, ดอกลีลาวดีและแอปเปิ้ลแกรนนี่สมิธ ความหอมติดทนนั้นอยู่ระดับปานกลาง 3-6 ชั่วโมง กลิ่นกระจายตัวได้ดีในรัศมีหนึ่งช่วงแขน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างอากาศ, ท้องฟ้า, อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย มันเป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับใช้ในช่วงกลางวันมากกว่ากลางคืน เหมาะกับฤดูร้อน ผลสรุปโดยรวมของผู้ที่เคยใช้น้ำหอมรุ่นนี้ต่างรู้สึก "ชื่นชอบและหลงรัก" น้ำหอมรุ่นนี้เป็นอย่างมาก

ต่อด้วยน้ำหอมผู้ชายอย่าง Light Blue Sun Pour Homme เปิดตัวด้วยความสดชื่นของไซตรัสอย่างมะกรูดและกลิ่นโน๊ตสไปซี่ของขิง ตามมาด้วยความอโรม่าของโรสแมรี่ที่ผสมกับกลิ่นโน๊ตดอกไม้ ปิดท้ายด้วยกลิ่นฐานอย่างไม้, วนิลลาและโอ๊คมอส น้ำหอมรุ่นนี้เป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีปริมาตร 75 ml. และ 125 ml.

• Top notes : bergamot, grapefruit, ginger, ozonic notes
• Heart : rosemary, osmanthus, coconut water, cedar
• Base : vetiver, vanilla, white musk, oak moss