Charm Fragrance World

Shop Cart

[ 0 ] Items
Go to checkout
 x 
Cart empty

Fougère คืออะไร? Fougère อ่านว่า 'foo-jair' (ฟูแจร์) (ออกเสียงโดยใช้ 'j' เบา ๆ - เกือบ 'foo-shair') มีที่มาจากคำในภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่า ‘เฟิร์น’ และเป็นหนึ่งในตระกูลน้ำหอมหลักที่ใช้อธิบายประเภทของน้ำหอม

 

Fougère มีโครงสร้างหลักๆ ประกอบไปด้วย คูมาริน (coumarin), ลาเวนเดอร์ (lavender), เจอเรเนียม (geranium) และ โอ๊คมอส (oakmoss)

 

สำหรับ Fougère แต่เดิมจะเป็นกลิ่นที่อยู่ช่วงกลางค่อนไปถึงเบส แต่กลิ่นเปิดที่เราคุ้นชินก็คือ Linalool ที่อยู่ในลาเวนเดอร์ซึ่งกลิ่นโดยปรกติมีความคล้ายเปลือกมะกรูดฝรั่ง (bergamot) แต่ให้ความรู้สึกที่สว่างกว่า ตามด้วยกลิ่นเจอเรเนียมที่เป็นส่วนของดอกไม้ให้ความรู้สึกหวาน-เย็นในมุมของเมนทอล ส่วนโอ๊คมอสจะทำหน้าที่เป็นกลิ่นของไม้ที่ชุ่มชื้นผสมกับคูมารินที่ให้ความรู้หวานที่มีกลิ่นอ่อนๆ ของหญ้าแห้ง

 

 

การพัฒนาของฟูร์แจร์เป็นไปตามยุคสมัยและมีปัจจัยสำคัญเกิดจากการค้นพบสารหอมใหม่ๆซึ่งทำให้ฟูร์แจร์สามารถสอดแทรกได้อย่างหลากหลายเนื่องจากโครงสร้างค่อนข้างเปิดช่องว่างให้พัฒนาตั้งแต่ช่วงเปิดกับช่วงกลางของกลิ่น ทำให้เกิดความหลากหลายด้วยกลิ่นหอมของ ดอกไม้ (floral), แอนิมอลิค (animalic), กลิ่นเขียว (green), ผลไม้รสเปรี้ยว (citrus), เครื่องเทศ (spices), ไม้ (woods) และสมุนไพร (herbaceous)

 

ต้นกำเนิดของ Fougère ในโลกของน้ำหอมนั้นบางแห่งกล่าวว่ามีต้นกำเนิดมาจากน้ำหอม ‘Fougère Royale’ จากบ้านน้ำหอม Houbigant Parfum ที่สร้างสรรค์โดย Paul Parquet และชื่อ Fougère ก็มีต้นกำเนิดจากกลิ่นนี้

 

อย่างไรก็ตามแม้ในปัจจุบัน Fougère ส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวดหมู่ "น้ำหอมสำหรับผู้ชาย" แต่จุดประสงค์ของ Houbigant ที่เปิดตัว Fougère Royale ในปี พ.ศ. 2425 นั้น ถูกสร้างขึ้นโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น ‘ผู้หญิง’

 

Paul Parquet แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกที่แท้จริงเมื่อเขาใช้ coumarin ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในถั่วทองก้า (tonka bean) มาเป็นส่วนประกอบในน้ำหอมของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ‘Fougère Royale’ ได้ถูกยกเลิกการผลิตในเวลาต่อมา ด้วยกฏข้อบังคับของ IFRA ในการจำกัดสารบางตัวและถูกเก็บรักษาในคลังเก็บกลิ่นที่พระราชวังแวร์ซายส์ (ประเทศฝรั่งเศส) ที่ Osmothéque

 

ในปี พ.ศ. 2553 Fougère Royale ได้ถูกคืนชีพขึ้นมาใหม่โดย Houbigant และถูกจัดเพศของน้ำหอมให้กลายเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย

 

การคืนชีพของ Fougère Royale มีสาเหตุมาจากความนิยมและความต้องการกลิ่นที่เป็นธรรมชาติแบบคลาสสิก เป็นเหตุให้นักปรุงน้ำหอมสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คนมาจนถึงปัจจุบัน

 

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ Fougère Royale จะมีการปรับสูตรใหม่แต่ก็ยังยึดโครงสร้างของ Fougère แบบดั้งเดิมอยู่

 

Fougère เป็นหนึ่งในตระกูลน้ำหอมที่สำคัญ บางคนกล่าวว่า Fougère นั้นเป็นประเภทย่อยของน้ำหอมอะโรมาติก (Aromatic) (อ้างอิงจาก Fragrantica) แต่บ้านน้ำหอมบางแห่งก็บอกว่า Fougère ก็คือ Fougère

 

แต่อย่างไรก็ตาม Fougère ก็ยังถือเป็นกลุ่มหลักใน fragrance families ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำหอมตระกูลอื่นๆ เช่น citrus, gourmand, chypre, fruity, woody, oriental และ floral และมีการแบ่งย่อยเป็นครอบครัวรองต่อไปอีกที

 

ยกตัวอย่าง ‘Leathery Fougère’ ซึ่งจะเห็นได้ว่า Fougère เป็นตัวหลักส่วน ‘หนัง’ เป็นส่วนเสริมนั่นเอง : อีกตัวอย่างหนึ่งคือ 'Aromatic Fougère' ที่มีกลิ่นหอมของไม้, สมุนไพร และแม้แต่เครื่องเทศบางชนิด ช่วยเพิ่มลักษณะของกลิ่นหอมให้โดดเด่นโดยมี Fougère เป็นตัวหลัก ซึ่งปัจจุบันครอบครัวสาขานี้ก็เป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมมาก

 

การจำแนกประเภทเหล่านี้อาจเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล แต่เนื้อแท้และกลิ่นหอมเดียวกัน สามารถแบ่งออกเป็นครอบครัวที่แตกต่างกันตามจุดประสงค์ของบ้านน้ำหอมที่แตกต่างกัน ภายในตระกูล Fougère

 

Fougère แบบคลาสสิก ณ ตอนนี้เราจะมองข้าม Fougère Royale จากบ้านน้ำหอม Houbigant Parfum ที่สร้างสรรค์โดย Paul Parquet ที่เป็นจุดเริ่มต้นกันก่อน แต่จะไปเริ่มต้นที่ Fougère Royale ของ Houbigant ในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งหลังจากที่ห่างหายไปนานก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Fougère Royale เป็นน้ำหอมกลิ่นคลาสสิก ที่ให้ความรู้สึกสง่างาม โดดเด่นในฐานะน้ำหอมผู้ชาย

 

Fougère Royale จะเปิดด้วยกลิ่นของมะกรูดฝรั่งและลาเวนเดอร์ที่ทรงพลัง มากกว่าจะเป็นกลิ่นที่นุ่มนวลส่งต่อไปยังเจอเรเนียม (หรือกล่าวได้ว่าเป็นกุหลาบผู้ชาย) เล็กน้อย ที่ช่วยส่งเสริมความเย็นสดชื่นแบบเมนทอล ก่อนที่กลิ่นจะเปลี่ยนไปเป็นมอสที่หรูหราและกลิ่นของหญ้าแห้งที่อบอุ่นพร้อมความสปอร์ตของ วานิลลาและเครื่องเทศร่วมกัน : และสิ่งเหล่านี้มันแสดงให้เห็นว่าน้ำหอม Fougère Royale แบบดั้งเดิมของ Houbigant Parfum นั้นมีความโดดเด่นและทรงพลังมากแค่ไหนแม้เวลาจะผ่านไปนานถึง 128 ปีต่อมากลิ่นก็ยังไม่ตกยุค และอยู่เหนือกาลเวลา

 

Modern Fougère หรือ Fougère สมัยใหม่ จะเป็น Fougère ที่เปลี่ยนสารในโครงสร้างเดิมอย่าง คูมาริน (coumarin), ลาเวนเดอร์ (lavender), เจอเรเนียม (geranium) และ โอ๊คมอส (oakmoss) ไปใช้สารอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียว หรือใช้ Aroma chemical เข้ามาทดแทน เพื่อทำให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น และในหลาย ๆ บ้านน้ำหอมมักจะเพิ่มเติม Bergamot, Galbanum และ Vetiver แทรกอยู่ในกลิ่นด้วย

 

ยกตัวอย่าง Le Male ของ Jean Paul Gaultier ที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 และแน่นอนว่ามันถูกนำไปเปรียบกับ Fougère Royale แบบดั้งเดิมในทันที แต่มีต้นกำเนิดที่ทันสมัยกว่าโดยเปลี่ยนโครงสร้างของ Fougère แบบดั้งเดิม เช่น เปลี่ยนโอ๊คมอสเป็นวนิลลาร่วมกับมิ้นต์ เป็นต้น

 

ซึ่งแน่นอนว่า Jean Paul Gaultier ก็ถูกมองว่าตัวแทนของ Fougère ที่เต็มไปด้วยสเตียรอยด์และถูกตราหน้าอย่างหนักหน่วง (ต้องเข้าใจว่าในสมัยก่อนน้ำหอมที่แหกกฏนั้นจะโดนดูถูกดูแคลนมาก ๆ)

 

ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว Le Male ก็คือ Fougère ที่ใช้ง่ายและสามารถใช้ได้ในหลาย ๆ โอกาส ซึ่งแตกต่างจาก Fougère แบบคลาสสิกที่เน้นความเป็นทางการมากกว่า

 

Contemporary Fougère หรือ Fougère ร่วมสมัย จะแตกต่างจาก Fougère สมัยใหม่ตรงที่ไม่ไปยุ่งกับโครงสร้างของ Fougère แบบดั้งเดิมมากนัก แต่มีการเพิ่มเติมสารประกอบใหม่ ๆ ลงไป โดยยังทำให้โครงสร้างเดิมนั้นโดดเด่นอยู่ ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับกลิ่นใหม่ ๆ ที่มีรากฐานจากน้ำหอมคลาสสิก Fougère

 

ส่วนในเมืองไทยนั้นถ้าใครนึกภาพกลิ่นของ Fougère ไม่ออกให้ลองจินตนาการถึงกลิ่นในสปาก็ได้ เพราะ ถ้านำเอาโครงสร้างของ Fougère แยกย่อยออกมา จะพบว่าหลายกลิ่นนั้นถูกใช้อยู่ในสปาอโรม่านั่นเอง

 

อ้างอิงจาก

https://www.clivechristian.com/fougere-fragrance-family/?fbclid=IwAR35rK9xxEucMvE026gjVCJS4rK21pqh_gi16I-0cC6TziqeNJkj9M9Eopo

https://www.pairfum.com/about-fougere-the-evolution-meaning-of-fougere-in-perfumery/?fbclid=IwAR2_DcKGDOpLIGV9vGukQRDILC9_q3yZHTY6BS4yKC_L-9lkvlkYsgO_gyo

https://www.fragrantica.com/groups/aromatic+fougere.html?fbclid=IwAR1kcp9DGNY3RoSWEUqpWejGwXv85520JD1RhlzIZUtf5I_w6udp6KCIpXc

 

ผู้เขียน

ณัท : SIAM1928

 

เรียบเรียง

Kijjaz : นักดนตรีและนักปรุงน้ำหอม

เคนจิ : Artisan Valley : น้ำหอมทำมือและชุมชนของคนทำน้ำหอม

สาระน้ำหอม

เปิดโลกของคุณ, หาตัวคุณให้เจอ, สไตล์ที่ใช่, กลิ่นที่คุณชอบ?

  • Emporio Armani Stronger With You Tobacco
    Armani ได้เปิดตัวน้ำหอมผู้ชายลิมิเต็ดเอดิชั่นจากไลน์ Emporio Armani ในชื่อ Stronger With You Tobacco พร้อมกับลวดลายบนขวดของน้ำหอมที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับตลาดตะวันออกกลาง…
    Be the first to comment!
  • Dolce Blue Jasmine
    Dolce Blue Jasmine Dolce&Gabbana ได้เฉลิมฉลองให้กับคอลเล็คชั่นน้ำหอมที่ชื่อ Dolce อีกครั้งด้วยการเปิดตัวน้ำหอมสุดแสนน่ารักที่มีชื่อรุ่นว่า Dolce Blue Jasmine   คำอธิบายของทางแบรนด์, "Dolce Blue…
    Be the first to comment!

Calendar

« March 2024 »
Mon Tue Wed Thu Fri Sat Sun
        1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31

Who's online

We have 453 guests and no members online

Guarantee By

Green Red Blue

Copyright © 2022. Modified by Nok 1st BBA PSU Batch

Premium templates by www.bigtheme.net free download.

София Дървен материал цени

Online bookmaker Romenia bet365

Germany bookmaker bet365 review by ArtBetting.de