น้ำหอม Shalimar Eau de Parfum โดย Guerlain เป็นน้ำหอมที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในปี 1925 ด้วยฝีมือการปรุงแต่งของ Jacques Guerlain น้ำหอมจะให้กลิ่นโทนโอเรียนทัลและเครื่องเทศ โดยมีวัตถุดิบจัดเรียงวางอยู่ในชั้นพีระมิดน้ำหอมดังนี้

• Top notes : Citruses, Bergamot, Lemon, Cedar and Mandarin Orange
• Middle notes : iris, Patchouli, Vetiver, Jasmine and Rose
• Base notes : Incense, Vanilla, Leather, Opoponax, Sandalwood, Civet, Tonka Bean and Musk.

น้ำหอม Shalimar Eau de Parfum ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเชิดชูตำนานเรื่องราวความรักระหว่างจักพรรดิ Shahjahan และภรรยาของเขา Mumtaz Mahal ก่อนที่ Shahjahan จะกลายมาเป็นจักรพรรดิ เขามีนามว่าเจ้าชาย Khurram ตามตำนานเล่าว่า เจ้าชาย Khurram ตอนอายุ 20 ปีได้พบกับหญิงสาวที่ชื่อ Arjumand Banu ในตลาดที่ครอบครัวเธอทำงาน เจ้าชายหลงใหลในความงดงามของเธอยิ่งนัก ภายหลังเจ้าชายได้เป็นจักรพรรดิ จึงได้แต่งตั้งเป็นภรรยาในพระนามว่า Mumtaz Mahal ซึ่งมีความหมายว่า "อัญมณีแห่งพระราชวัง" หลังจากแต่งงาน จักรพรรดิ์และ Mumtaz ก็มิได้แยกจากกัน ทั้งยามศึกและยามสงบ เธอได้ให้กำเนิดลูกน้อย 13 คน และเสียชีวิตลงตอนที่เธออายุ 39 ปี ในระหว่างการคลอดลูกคนที่ 14 การเสียชีวิตของเธอสร้างความเสียพระทัยแก่จักรพรรดิ Shahjahan เป็นอย่างมากและได้สั่งให้สร้าง "ทัชมาฮาล" (Taj Mahal) เพื่อระลึกถึงภรรยาของเขาและความรักนิรันดร์ น้ำหอม Shalimar ได้รับการตั้งชื่อตามสวน "The Gardens of Shalimar" ซึ่งเป็นสวนที่ทาง Mumtaz โปรดปราณ Shalimar กลายมาเป็นน้ำหอมที่ขายดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาและความมหัศจรรย์ของมันก็ไม่อาจปฏิเสธได้

ผลสำรวจจากผู้ที่เคยใช้น้ำหอมรุ่นนี้มาแล้ว ส่วนใหญ่โหวตให้กับกลิ่นควันธูปหรือกำยานเป็นกลิ่นที่หอมโดดเด่นมากที่สุดในน้ำหอมรุ่นนี้ รองลงมาเป็นวนิลลา, โน๊ตหนังและไซตรัส ความหอมติดทนของน้ำหอมอยู่ในระดับ 7-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว การกระจายตัวของกลิ่นก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน มันสามารถกระจายกลิ่นออกไปได้ไกลถึง 6 ฟุต มันเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่กึ่งๆ unisex ที่คุ้มค่าตัวมากๆ มันเป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืนแต่กลางวันก็ใช้ได้เช่นกัน เหมาะกับฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง ความรู้สึกส่วนใหญ่ของผู้ที่เคยใช้คือ "หลงรักและชื่นชอบ" น้ำหอมรุ่นนี้มากๆ ถือได้ว่าเป็นน้ำหอมที่คลาสสิคอมตะอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว