Charm Fragrance World

Drew Barrymore ผู้ที่มีชื่อเสียงที่เป็นทั้งนักแสดงหญิง, นางแบบ, ผู้เขียนบท, โปรดิวเซอร์และนักเขียน ผู้ที่ผ่านการแสดงจากภาพยนต์ชื่อดังมาแล้วมากมายเช่น E.T., Batman Forever, The Wedding Singer, Donnie Darko, Charlie's Angels, 50 First Dates เป็นต้น เธอได้ตัดสินใจทำฝันของเธอให้เป็นจริงโดยการมีน้ำหอมเป็นของตัวเองโดยเปิดตัวพร้อมกันทีเดียว 3 ตัว ได้แก่ Cherished, Radiant, and Sultry น้ำหอมเหล่านี้ออกมาหลังจากที่เธอเปิดตัวเครื่องสำอางค์ในคอลเลคชั่น Flower ซึ่งให้สิทธิ์ Wal-Mart ขายแต่เพียงผู้เดียว

น้ำหอมโทนกลิ่นดอกไม้ Cherished, Radiant และ Sultry สะท้อนถึงความเป็นผู้หญิงในหลากหลายช่วงอารมณ์ น้ำหอมได้รับการสร้างสรรค์จาก Stephen Nilsen จากสถาบันวิจัยค้นคว้าและพัฒนากลิ่น Givaudan เขาสร้างสรรค์น้ำหอมทั้ง 3 ตัวให้สะท้อนถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันในช่วงเวลาที่ต่างกันในแต่ละวัน

เริ่มกันที่น้ำหอม Cherished มันเป็นน้ำหอมที่เหมาะกับช่วงอารมณ์ในยามเช้า เพราะว่ามันมีส่วนผสมของกลิ่นโน๊ตน้ำค้าง สดใสด้วยใบของแบล๊คเคอร์แรนท์ พร้อมด้วยเลม่อนจากอิตาลี ตามมาด้วยกลิ่นระดับกลางของกลีบของดอกไอริส, กุหลาบและ lily of the valley ปิดท้ายด้วยกลิ่นเบสที่มีส่วนผสมของวนิลลาจาก Tahiti, มัสค์และกลิ่นครีมของไม้จันทน์หอม น้ำหอมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่สาวๆได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและครอบครัวของเธอในบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

Radiant เปิดตัวด้วยโน๊ตกลิ่นน้ำค้าง, มะกรูดและ water molecule Calone ตามมาด้วยกุหลาบ, ดอกพิโอนี่และแมคโนเลีย ปิดท้ายด้วยมัสค์, แอมเบอร์และไม้ กลิ่นของน้ำหอมจะทำให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นและมันถูกสร้างสรรขึ้นมาก็เพื่อให้คุณกระชุ่มกระชวยมีแรงกายแรงใจพร้อมที่สู้กับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น ส่วนประกอบของมันจะทำให้คุณรู้สึกชุ่มชื่นและสนุกสนานตลอดทั้งวัน

Sultry มันถูกสร้างสรรค์จากการผสมผสานของพลัม, พริกไทยชมพูและแครนเบอร์รี่ ตามมาด้วยกลิ่นระดับกลางประกอบด้วยดอกมะลิที่บานตอนกลางคืน, cashmeran และแบล๊คเคอร์แรนท์ ปิดท้ายด้วยความลึกล้ำและความอบอุ่นของแพทชูลี่, วนิลลาจากมาดากัสการ์และมัสค์ มันเป็นน้ำหอมที่ถูกออกแบบมาเพื่อความโรแมนติคและยามค่ำคืน

Drew Barrymore กล่าวว่าคุณสามารถที่จะใช้น้ำหอมแต่ละตัวพร้อมกันได้เลยเพราะมันมีโทนกลิ่นที่คล้ายกันมาก ขณะที่ นักปรุงน้ำหอมอย่าง Nilsen กล่าวเสริมว่า น้ำหอมทั้งสามตัวนี้ก็เหมือนดั่งวงดนตรีซิมโฟนี่ ที่เครื่องดนตรีจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราสามารถฟังดนตรีชิ้นนั้นเล่นได้เป็นเพลงเมื่อมันอยู่ตัวเดียว แต่เมื่อรวมกันก็ยิ่งทำให้ช่วงเวลานั้นสมบูรณ์ขึ้นมา

น้ำหอมนี้เป็นน้ำหอมประเภท Eau De Parfum ที่มีปริมาตร 15 ml. และ 30 ml. มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นลูกกลิ้งที่พกพาไปที่ไหนก็ได้ตามสะดวก ขวดน้ำหอมเป็นแก้วสีที่มีสีต่างกัน 3 รุ่น และฝาของน้ำหอมเป็นรูปทรงกุหลาบ ขวดน้ำหอมแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับอารมณ์และช่วงเวลา Cherished  จะมีขวดสีน้ำนม Radiant จะมีขวดน้ำหอมสีชมพูทอง ในขณะที่ Sultry มีสีม่วงเข้ม น้ำหอมคอลเล็คชั่นนี้คาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2557 นี้แล้วที่ Wal-Mart ทุกสาขาในอเมริกา สนนราคาอยู่ที่ 30 ml EDP ราคา $24.98; 15 ml EDP ราคา $19.98, rollerball edition ราคา $9.98

Bvlgari Le Gemme Collection เป็นน้ำหอมใหม่ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำหอมที่น่าสะสม 6 แบบคือ Ashlemah, Noorah, Amarena, Lilaia, Maravilla, Calaluna ทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องประดับเพชรพลอยและน้ำหอมแต่ละแบบก็มีการออกแบบดีไซน์ขวดน้ำหอมที่หรูหราเหมือนคนโธน้ำกรีกและโรมันโบราณ หลากสีสันแตกต่างกันไปแต่ละแบบ

"นี่คือโปรเจคท์พิเศษที่จะเป็นตัวแทนของแบรนด์ในระยะยาว" Valeria Manini กรรมการผู้จัดการ Bulgari Parfums, ช่างจิลเวอลี่ชาวอิตาเลี่ยน, เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton เธอเริ่มต้นทำงาน Le Gemme collection เมื่อ 3 ปีก่อน แนวคิดไอเดียจะเน้นที่อัญมณีโบราณ ที่ซึ่งหลายๆคนในวันนี้รวมทั้งผู้ที่รักในอัญมณีลืมมันไปแล้ว "มันก็เหมือนเส้นทางของชา, เส้นทางของผ้าไหมผ้าฝ้าย เราพัฒนาและสานต่อจากเส้นทางของอัญมณี สร้างสรรผลงานน้ำหอมให้เป็นตัวแทนของความคิดและอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับอัญมณแต่ละแบบ" Valeria Manini ได้กล่าวไว้และกล่าวเพิ่มเติมว่า เราได้ทำการปรึกษากับผู้ชำนาญด้านเพชรพลอยและน้ำหอมในโครงการนี้อีกด้วย

1. มาเริ่มกันที่น้ำหอมคอลเล็คชั่นตัวแรก Ashlemah ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณีที่ชื่อว่า amethyst มันประกอบด้วยโน๊ตลาเวนเดอร์, ไวโอเล็ทและเฮลิโอโทรป
2. น้ำหอมตัวที่ 2 ชื่อว่า Noorah ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก turquoise หลายๆท่านคงจะนึกหน้าตาของอัญมณีชิ้นนี้ออก มันเป็นหินสีฟ้าอมเขียวที่มีความเกี่ยวข้องเรื่องเครื่องรางค์ของขลัง น้ำหอมนี้ประกอบด้วยโน๊ต galbanum, กระวาน, ดอกไอริส, กำยาน, ยาสูบ, โอ๊ค, oil, แพทชูลี่และวนิลลา
3. Amarena เป็นน้ำหอมของตัวแทนอัญมณีที่ชื่อว่า tourmaline เป็นการผสมผสานเสน่ห์เย้ายวนของดอกซ่อนกลิ่นและกลิ่นแป้งของกุหลาบ
4. Lilaia เป็นน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก peridot อัญมณีสีเขียวส่องประกาย ประกอบด้วยโน๊ต mastic, สะระแหน่, ส้มและ mate
5. Maravilla เป็นตัวแทนของอัญมณีที่ชื่อ citrine ให้กลิ่นแนว chypre เต็มไปด้วยกลิ่นไซตรัส, โน๊ตผลไม้อย่างพีช, มะลิ, แพทชูลี่และ acethyvenol
6. Calaluna ตัวแทนของ Moonstone ประกอบด้วยไม้จันทน์หอม, กระวาน, เฮลิโอโทรป, แอมเบอร์และแพร

น้ำหอมทั้ง 6 ตัวในคอลเล็คชั่น Bvlgari Le Gemme มีปริมาตรตั้งแต่ 30 ml. ถึง 350 ml. ราคาน้ำหอมในปริมาตร 100 ml. สนนราคาอยู่ที่ 280 ยูโร มันจะเริ่มต้นวางจำหน่ายก่อนในเอเชียและยุโรป ส่วนอเมริกาจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558

น้ำหอมคอลเล็คชั่นใหม่ในตระกูล DKNY Be Delicious จะเปิดตัวออกมาในช่วงต้นปี 2017 นี้ ในชื่อว่า DKNY Be Delicious City Girl Collection มันเป็นน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความแตกต่างในละแวกเมือง New York City น้ำหอมใหม่ในคอลเล็คชั่นนี้ประกอบด้วย Brooklyn Girl, Chelsea Girl และ Nolita Girl น้ำหอมแต่ละรุ่นก็จะมีบุคลิกเอกลักษณ์ของผู้หญิงที่แตกต่างกันไป

น้ำหอม DKNY Be Delicious City Brooklyn Girl เป็นตัวแทนของผู้หญิงผู้ซึ่งมีความหลงใหลในแฟชั่นและความอู้ฟู่ น้ำหอม Brooklyn Girl มีความเป็นศิลปะและกล้าได้กล้าเสี่ยง กลิ่นของมันเป็นการผสมกันของผลไม้อย่างบลูเบอร์รี่ ตามมาด้วยกลิ่นระดับกลางของดอกฟรีเซียและมะลิ ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นและเย้ายวนของแอมเบอร์

น้ำหอม DKNY Be Delicious Chelsea Girl เป็นตัวแทนของหญิงสาวสไตล์ลึกลับน่าค้นหา เป็นสาวๆที่มีความชิลและมีเทรนด์ที่หลากหลาย กลิ่นของน้ำหอมประกอบด้วยแอปเปิ้ล ตามมาด้วยกล้วยไม้และกุหลาบดำ ปิดท้ายด้วยมัสค์

น้ำหอม DKNY Be Delicious City Nolita Girl เป็นตัวแทนของหญิงสาวที่ตรงข้ามกับความเรียบร้อย มันเป็นสไตล์แบบ Urban Street กลิ่นน้ำหอมประกอบด้วยราสพ์เบอร์รี่ ผสมกับดอกไวโอเล็ทและแมคโนเลีย ปิดท้ายด้วยกลิ่นครีมของไม้จันทน์หอม 

รูปบนขวดน้ำหอมและแพ็คเกจจิ้งถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย Donald Robertson น้ำหอมนี้เป็นน้ำหอมประเภท Eau De Toilette ที่มีปริมาตร 50 ml.

น้ำหอม Limited Edition รุ่นใหม่จาก Donna Karan ในไลน์ผลิต Be Delicious เตรียมเปิดตัววางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 นี้ น้ำหอมคอลเล็คชั่นนี้มีชื่อรุ่นว่า DKNY Be Delicious Flower Pop Collection มันได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันของฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้ในสวนสาธารณะเซนทรัลพาร์ค ณ กรุงนิวยอร์ค ซิตี้ คอลเล็คชั่นน้ำหอมนี้ประกอบด้วยน้ำหอม 3 รุ่นที่มีชื่อว่า Violet Pop, Blue Pop และ Pink Pop 

เริ่มกันที่น้ำหอมตัวแรกอย่าง Violet Pop เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นออกไปโทนดอกไม้, ไม้และโอเรียนทัล มีกลิ่นหลักเป็นกลิ่นดอกไวโอเล็ทและดอกไอริส มันถูกสร้างสรรค์มาเพื่อสาวๆ DKNY ที่สนุกสนานและเจ้าชู้ผู้ใช้ชีวิตอยู่กับช่วงเวลานั้นๆ

• Top notes : bergamot, galbanum oil, apple
• Heart notes : orange blossom absolute, magnolia oil, violet leaf absolute
• Base notes : patchouli, styrax, orris concentrate

น้ำหอมตัวที่สองมีชื่อว่า Blue Pop ให้กลิ่นโทนดอกไม้ที่มีชีวิตชีวาและผลไม้ที่ให้กลิ่นหอมอโรม่าอย่างบลูเบอร์รี่, ดอกพุดและมัสค์ มันถูกสร้างสรรค์มาเพื่อสาวๆ DKNY ที่มีความกล้าผู้ซึ่งไม่มีคำว่า "ไม่หรือทำไม่ได้" ในคำตอบของเธอ

• Top notes : bergamot, blueberry, black currant
• Heart notes : Sambac jasmine, gardenia, ylang-ylang
• Base notes : sandalwood, musk, vanilla

น้ำหอมตัวสุดท้าย Pink Pop ให้กลิ่นหอมน่ารับประทานของผลไม้, ดอกไม้ขาวและขนม praline น้ำหอมถูกสร้างสรรค์มาเพื่อสาวๆที่จะหยุดความยุ่งเหยิงและความรักให้เธอกลายมาเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจทั้งหมด

• Top notes : plum, nectarine, mandarin
• Heart notes : Sambac jasmine, apricot, frangipani
• Base notes : sandalwood, amber, musk, praline

น้ำหอมคอลเล็คชั่นนี้เป็นน้ำหอมประเภท Eaux de Toilette ที่มีปริมาตร 50 ml.

เฉลิมฉลองให้กับวันหยุดอย่างวันคริสต์มาสและปีใหม่ 2020 ที่กำลังจะมาถึง, Nina Ricci ได้เปิดตัวน้ำหอมที่สวยงาม 3 รุ่นที่ให้อารมณ์แบบการเฉลิมฉลองเทศกาล ขวดน้ำหอมเคลือบด้วยเกล็ดสีทองชิมเมอร์และกล่องน้ำหอมที่โปร่งใสเผยให้เห็นขวดน้ำหอมด้านใน น้ำหอมทั้ง 3 รุ่นที่คัดเลือกมานั้นประกอบด้วยน้ำหอม Nina, Luna และ Bella ที่ตอนนี้จะถูกประดับตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์น่ารักสีทองรูปริมฝีปาก, จันทร์เสี้ยวและดาวตก ในขณะที่ขวดน้ำหอมยังคงรูปทรงแอปเปิ้ลที่มีชื่อเสียงตกแต่งด้วยเกล็ดสีทองชิมเมอร์ที่ด้านบนของขวดน้ำหอม

สติ๊เกอร์สีทองน่ารักนี้ได้รับการออกแบบโดยศิลปิน Ana Strumpf และสามารถนำสติ๊กเกอร์นั้นมาตกแต่งบนขวดน้ำหอมให้มีความน่ารักเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

น้ำหอมตัวแรกที่นำมาเป็น Nina Ricci Holiday Collection 2019 คือน้ำหอม Nina ที่ได้รับความนิยมสูงของผู้ที่ชื่นชอบน้ำหอมแอปเปิ้ล น้ำหอมดั้งเดิมเปิดตัวในปี 2006 และเป็นการเริ่มต้นของน้ำหอม "แอปเปิ้ล" ตั้งแต่นั้นมา ส่วนประกอบของน้ำหอมเริ่มต้นด้วยเลม่อนและมะนาว ขณะที่กลิ่นระดับกลางประกอบด้วยแอปเปิ้ลเขียว, ดอกพิโอนี่, ขนม praline และดอกลำโพง กลิ่นระดับฐานเป็นการผสมกันของต้นแอปเปิ้ล, มัสค์และไม้ซีดาร์ น้ำหอม Nina นี้ได้รับการปรุงแต่งโดย Olivier Cresp และ Jacques Cavallier

ตัวที่สองเป็นน้ำหอม Luna มีความหอมน่ารับประทานอย่างแท้จริงโดยคาราเมลและวนิลลา มันเปิดตัวด้วยผลไม้ป่า, มะกรูด, ดอกเนโรลิและส้มแทงเจอรีน ตามมาด้วยกลิ่นระดับกลางที่ประกอบด้วยคาราเมลหอมๆ ร่วมกับ immortelle, ดอกมะลิและลูกแพร ปิดท้ายด้วยกลิ่นระดับฐานอย่างไม้จันทน์หอม, วนิลลา, ชะเอมและมัสค์ น้ำหอมรุ่นนี้ได้รับการสร้างสรรค์โดย Christophe Raynaud และ Marie Salamagne

ส่วนน้ำหอม Bella เริ่มต้นด้วยส้มแทงเจอรีน, เลม่อนและ rhubarb กลิ่นระดับกลางประกอบด้วยดอกกุหลาบและดอกฟรีเซียวางอยู่บนกลิ่นระดับฐานที่ประกอบด้วยมัสค์และวนิลลลา น้ำหอม Bella ถูกปรุงแต่งโดย Louise Turner และ Sonia Constant

จริงๆแล้วน้ำหอมทั้ง 3 รุ่นยังมีวัตถุดิบและกลิ่นน้ำหอมที่เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น แต่ขวดและกล่องน้ำหอมจะมีการตกแต่งให้มีความเข้ากับเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ 2020 ที่กำลังจะมาถึง น้ำหอมนี้ผลิตออกมาจำนวนจำกัด ล้วนแล้วแต่เป็น Eaux de Toilette ที่มีปริมาตร 50 ml.

Marc Jacobs ขอเสนอน้ำหอมคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด สำหรับครั้งนี้มันมีชื่อคอลเล็คชั่นว่า Daisy Spring Collection ที่ประกอบด้วยน้ำหอมถึง 3 รุ่นคือ Daisy Spring, Daisy Eau So Fresh Spring และ Daisy Love Spring ขวดของน้ำหอมยังคงไว้ซึ่งรูปร่างเดิม แต่ครั้งนี้มันจะมาในเฉดสีเขียวอ่อนที่สดใส มันสื่อถึงฤดูใบไม้ผลิได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตามข้อมูลของทางแบรนด์ Marc Jacobs ที่ได้ให้รายละเอียดมา กลิ่นของน้ำหอมจะออกมาในธีมสดชื่น, สดใสและชื่นบาน 

ส่วนผสมหรือวัตถุดิบมีพื้นฐานของความสดชื่น, มีความอโรม่า, โทนดอกไม้และเครื่องเทศ สุดยอดความลงตัวของวัตถุดิบที่จะอธิบายถึงการเกิดขึ้นตามธรรมชาติในฤดูใบไม้ผลิ ทางแบรนด์อธิบายเพิ่มเติมว่า "มันเป็นจับเอากลิ่นหอมที่ปลอดโปร่งแห่งธรรมชาติและความสดใสของฤดูใบไม้ผลิ, น้ำหอมลิมิเต็ด Daisy Spring ตัวนี้ก็คือด้านที่เป็นอีกฤดูกาลหนึ่งของน้ำหอมคลาสสิค Daisy นั่นเอง"

เริ่มกันที่ตัวแรก Marc Jacobs Daisy Spring ที่มาพร้อมกับการระเบิดออกของดอกกุหลาบและไม้ rosewood จับคู่กับเครื่องเทศอย่างกระวาน ให้กลิ่นสดชื่นที่สง่างาม น้ำหอมปรุงโดยนักปรุงน้ำหอมระดับโลก Alberto Morillas มันเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีปริมาตร 50 ml. สนนราคา $86 มีขายแล้วที่ห้าง Macy's อเมริกา...กกกกก

น้ำหอมตัวที่ 2 คือ Marc Jacobs Daisy Love Spring ตัวนี้มีความเป็นผู้หญิงมากสุดในคอลเล็คชั่น มันมาพร้อมกับกลิ่นหอมๆที่ละเอียดอ่อนของดอกพิงค์พิโอนี่ ห่อหุ้มด้วยกลิ่นหอมหวานและครีมของผลมะเดื่อฝรั่งและ fig milk (ยางของผลมะเดื่อฝรั่ง ประมาณนั้น น่าจะใช่ ถ้าไม่ใช่มาบอกด้วยนะ) น้ำหอมปรุงโดยนักปรุงน้ำหอมระดับโลก Alberto Morillas มันเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีปริมาตร 50 ml. สนนราคา $86 มีขายแล้วที่ห้าง Macy's อเมริกา...กกกกก

สุดท้ายเป็นน้ำหอม Marc Jacobs Daisy Eau So Fresh Spring ให้กลิ่นหอมสดชื่นสบายๆ มาพร้อมกับวัตถุดิบอย่างดอกชาเขียว, มัทฉะและความสดใสที่ระเบิดออกมาของพริกไทย pink pepper น้ำหอมปรุงโดยนักปรุงน้ำหอมระดับโลก Alberto Morillas มันเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ที่มีปริมาตร 75 ml. สนนราคา $100 มีขายแล้วที่ห้าง Macy's อเมริกา...กกกกก